แต่ โรคทางใจ ที่พบได้มากในประเทศไทยมีอะไรบ้าง? หรือคนไทยส่วนใหญ่ป่วยทางใจกันด้วยโรคอะไรบ้าง ลองไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้นในบทความนี้

1. โรคแพนิค

โรคทางใจ ที่เกิดขึ้นจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ โดยเมื่อมีอาการจะรู้สึกได้อัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น หายใจลำบาก จุกแน่น และอาจมีอาการเวียนศีรษะตามมา บางรายอาจมีอาการชาตามตัวร่วมด้วย ซึ่งผู้ที่ป่วยโดยโรคแพนิคมักจะมีความกังวลว่าจะเสียชีวิต รวมทั้งกังวลว่าอาการจะกำเริบอยู่ตลอดจนทำให้ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยสาเหตุมักมาจากความวิตักกังวล และการเผชิญกับสถานการณ์ที่กลัวหรือตกใจสุดขีด ซึ่งหากปล่อยให้ป่วยเป็นแพนิคโดยไม่ได้รับการบำบัดหรือรักษาอาจนำไปสู่การป่วยด้วยโรคซึมเศร้าได้

2. โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้าเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบมากในคนไทย และเริ่มเกิดขึ้นกับวัยรุ่นตอนต้น (11-14 ปี) เพิ่มมากขึ้น โดยอาการของโรคนี้คือมีความรู้สึกเศร้า เบื่อหน่าย หดหู่ ท้อแท้ และไม่รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง บางคนมีความรู้สึกเบื่อหน่ายทุกสิ่งรอบตัว ไม่มีสมาธิหรือมีความจำลดลง ขาดแรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ หากไม่ได้รับการรักษาอาจเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง

3. โรคจิตเภท

สำหรับโรคนี้จะมีการแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจน โดยผู้ป่วยจะมองเห็นภาพหลอน หรือหูแว่ว และจะแสดงออกด้วยการพูด หรือหัวเราะคนเดียว อาจมีความรู้สึกหวาดระแวงร่วมด้วย โรคจิตเภทเป็นโรคที่มักจะทำให้ป่วยเรื้อรังได้หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ต้น และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายคนกลับมามีอาการแม้จะได้รับการรักษาแล้วก็คือ การหยุดยาด้วยตัวเองเพราะคิดว่าหายหรือดีขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการเริ่มต้นรักษาใหม่ทั้งหมด

4. โรคจิตเวชจากการใช้สารเสพติด

สำหรับโรคนี้สาเหตุหลักมาจากการใช้สารเสพติด หรือติดยาเสพติดมาเป็นเวลานาน และใช้สิ่งเสพติดในปริมาณที่มากอยู่เสมอ ทำให้เกิดอาการหลอน หูแว่ว รวมทั้งคลุ้มคลั่ง ขาดสติ มีความรู้สึกหวาดระแวงกลัวจะถูกทำร้าย หากมีอาการมากและไม่รีบรักษาอาจส่งผลถึงการลงมือทำร้ายผู้อื่น หรือทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิตได้

5. โรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้ว

อีกหนึ่งโรคทางใจที่เริ่มพบมากขึ้น ซึ่งโรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติทางอารมณ์ซึ่งผู้ป่วยจะมีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างอาการซึมเศร้า และอารมณ์ดีใจเกินปกติ โดยช่วงที่มีอาการซึมเศร้าจะรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ซึ่งอาการจะคล้ายกับผู้ป่วยซึมเศร้า และอาการเศร้าจะกินเวลาหลายเดือนจะกลับสู่ภาวะปกติ และกลายเป็นภาวะแมเนีย หรือช่วงที่อารมณ์คึกคัก สนุกสนาน มีพละกำลังมากกว่าปกติ ทำให้ไม่รู้สึกอยากนอน บางรายอาจไม่นอนติดต่อกันหลายวัน อารมณ์ดีผิดปกติ โดยผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่พอดีได้ หากถูกขัดใจมักจะมีอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวตามมา

ทั้ง 5 โรคนี้ก็เป็น โรคทางใจ ที่หากป่วยแล้วควรรีบเข้ารับการบำบัดหรือรักษาโดยเร็ว เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ หรือขาดการดูแลจิตใจให้กลับสู่ภาวะปกติ อาจส่งผลเสียร้ายแรงได้ รู้อย่างนี้แล้ว มาสังเกตอาการและดูแลจิตใจให้ห่างไกลจากโรคเหล่านี้กันเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ดีที่สุด

ข้อมูลบางส่วนจาก
http://medinfo2.psu.ac.th
https://th.rajanukul.go.th/
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel